APPOINTMENT
นัดหมายแพทย์
APPOINTMENT
นัดหมายแพทย์
สายด่วน
02-998-9999

เกี่ยวกับเรา

รู้จักแพทย์รังสิต
รู้จักแพทย์รังสิต

โรงพยาบาลแพทย์รังสิต เปิดบริการเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ.2529 เป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกในจังหวัด ปทุมธานีและเป็นผู้ให้บริการทางการแพทย์ และการรักษาพยาบาลชั้นนำของจังหวัดปทุมธานี ด้วยความ ภาคภูมิใจมากว่า 30 ปี ซึ่งถือได้ว่าเป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในจังหวัดปทุมธานีที่ได้รับความไว้วางใจ ทั้งจากคนในจังหวัดปทุมธานี และจังหวัดใกล้เคียงเลือกใช้บริการตรวจวินิจฉัย รักษา และฟื้นฟูสุขภาพด้วยดี ตลอดมา จวบจนได้รับการรับรองกระบวนการคุณภาพของสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การ มหาชน) หรือ HA ในการให้บริการโรงพยาบาลเอกชน ขนาด 200 เตียง โดยทีมงานบริหารที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี พร้อมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกว่า 300 ท่าน ด้วยพันธกิจหลักของเรา คือ มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพสู่มาตรฐาน การรักษาตามจรรยาบรรณและบริการด้วยน้ำใจ ห่วงใยดุจญาติมิตร โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ตั้งอยู่ในย่าน ที่อยู่อาศัยของชาวกรุงเทพมหานครและปทุมธานี มีผู้ใช้บริการจำนวนเกือบ 700,000 คนต่อปี นับเป็น คนปทุมธานี ถึง 500,000 คน และยังมีผู้ใช้บริการชาวต่างชาติ ซึ่งมีแนวโน้มมากขึ้นทุกปี

ประสบการณ์กว่า
30 ปี
ห้องพักผู้ป่วย
200 เตียงเตียง
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกว่า
300 ท่านท่าน
วิสัยทัศน์

วิสัยทัศน์ของโรงพยาบาล

เราจะเป็นโรงพยาบาลที่ประชาชนศรัทธาต่อบริการ
ที่มีคุณภาพ มีคุณธรรม และผู้รับบริการไว้วางใจ

พันธกิจของโรงพยาบาล

โรงพยาบาลแพทย์รังสิตมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการรักษาอย่างต่อเนื่อง ตามจรรยาบรรณวิชาชีพ
ให้บริการที่มีคุณค่าด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย
ผู้รับบริการปลอดภัย และบุคลากรมีความสุข

วิสัยทัศน์ของโรงพยาบาล

P  =  Patient and Personal Safety - ผู้ป่วยและบุคลากรปลอดภัย
R  =  Responsibility - รับผิดชอบต่อสังคมและตอบสนองต่อเสียงสะท้อนของผู้รับบริการ
H  =  Humanized Health Care - ดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์

PatRangsit Doctors
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • ข้อมูลระบุตัวตน เช่น ชื่อ นามสกุล ภาพถ่าย เพศ วันเดือนปีเกิด หนังสือเดินทาง หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือหมายเลขอื่นใดที่สามารถระบุตัวตนอื่นๆ เป็นต้น
  • ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ ที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หรืออีเมลล์ เป็นต้น
  • ข้อมูลการชำระเงิน เช่น ข้อมูลการเรียกเก็บเงิน ข้อมูลบัตรเครดิตหรือเดบิต หรือรายละเอียดบัญชีธนาคาร เป็นต้น
  • ข้อมูลการเข้ารับบริการ เช่น ข้อมูลการนัดหมายแพทย์ ข้อมูลส่วนบุคคลของญาติ ความต้องการเกี่ยวกับโรงแรมห้องพัก อาหาร และบริการเสริมอื่นๆ เป็นต้น
  • ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด เช่น ข้อมูลการลงทะเบียนเพื่อร่วมกิจกรรมกับโรงพยาบาล
  • ข้อมูลสถิติ เช่น จำนวนผู้ป่วย และการเข้าชมเว็บไซต์
  • ข้อมูลจากการเข้าใช้เว็บไซต์ของโรงพยาบาล เช่น IP Address, Cookies, Online Appointment System เป็นต้น
  • ข้อมูลด้านสุขภาพ รายงานที่เกี่ยวกับสุขภาพกาย และสุขภาพจิต การดูแลสุขภาพของท่าน ผลการทดสอบจากห้องทดลอง ห้องปฏิบัติการ และการวินิจฉัย
  • ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาและการแพ้ยาของท่าน
  • ข้อมูล การตอบรับและผลการรักษาที่ท่านให้ไว้

แต่ทั้งนี้โรงพยาบาลจะไม่เก็บข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนของท่าน อาทิเช่น เชื้อชาติ ความเชื่อทางศาสนา ประวัติอาชญากรรม เว้นแต่เป็นไปตามที่ข้อบังคับและกฎหมายกำหนด หรือโดยความยินยอมของท่าน
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ หรือสถานการณ์ดังต่อไปนี้

  • จัดหาบริการ หรือส่งมอบบริการของโรงพยาบาล
  • นัดหมายแพทย์ ส่งข่าวสาร แนะนำบริการของโรงพยาบาล
  • การประสานงานและส่งต่อข้อมูลซึ่งจะช่วยให้การส่งต่อผู้ป่วยมีความรวดเร็วขึ้น
  • การยืนยันตัวตนของผู้ป่วย
  • ส่งข้อความแจ้งเตือนการนัดหมายแพทย์ หรือการเสนอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาล
  • อำนวยความสะดวกและนำเสนอรายการสิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่ท่าน
  • จุดประสงค์ด้านการตลาด การส่งเสริมการขาย และการลูกค้าสัมพันธ์ เช่น การส่งข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่นผลิตภัณฑ์และบริการ รายการส่งเสริมการขาย และธุรกิจพันธมิตร เป็นต้น
  • เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสาร ตอบคำถาม หรือตอบสนองข้อร้องเรียน
  • สำรวจความพึงพอใจของลูกค้า วิจัยตลาด วิเคราะห์ทางสถิติ ประมวลผลและแสดงผลเพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ หรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆให้แก่ผู้ใช้บริการได้รับประโยชน์ยิ่งขึ้น
  • วัตถุประสงค์ทางบัญชีหรือทางการเงิน เช่น การตรวจสอบการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต การเรียกเก็บเงินและการตรวจสอบความถูกต้อง การขอคืนเงิน เป็นต้น
  • รักษาความปลอดภัย รวมถึงความปลอดภัยขณะพักรักษาอยู่ในโรงพยาบาล
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการสมัครงาน การเป็นพนักงาน หรือวัตถุประสงค์อื่นใดที่เกี่ยวข้อง
  • ปฏิบัติตามกฎของโรงพยาบาล
  • ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกำหนด ระเบียบ ข้อบังคับ หรือการร้องขอใดๆจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น การปฏิบัติตามหมายเรียกพยาน หรือคำสั่งศาล หรือการร้องขออื่นๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย       เป็นต้น
  • วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่สนับสนุนการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น หรือที่ได้รับความยินยอมจากท่านเป็นครั้งคราว

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลอาจเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่สาม ซึ่งอาจตั้งอยู่ภายในหรือนอกประเทศไทย โดยโรงพยาบาลตามมาตรฐานและมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสมหรือเป็นไปตามข้อบังคับและกฎหมาย เพื่อให้วัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น ให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้

  • โรงพยาบาลในเครือข่าย โรงพยาบาลที่รับการส่งต่อผู้ป่วย บริษัทในเครือข่าย เป็นต้น
  • ตัวแทน ผู้ให้บริการ ธุรกิจคู่ค้า และธุรกิจพันธมิตร หุ้นส่วนทางธุรกิจ เช่น โรงแรม บริษัทรถเช่า บริษัทประกัน พันธมิตรที่เข้าร่วมรายการโปรแกรมสะสมคะแนนและสิทธิประโยชน์ ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือศูนย์การแพทย์และบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการให้บริการ เป็นต้น
  • ธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัท บัตรเครดิต หรือเดบิต เป็นต้น
  • เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานรักษาความมั่นคงและความปลอดภัย
  • หน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานศุลกากร
  • หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้

การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์บุคคลที่สาม
เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือของโรงพยาบาล อาจมีลิงก์เชื่อมไปยังเว็บไซต์บุคคลที่สาม หากท่านไปตามลิงก์เหล่านั้น นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จะไม่มีผลกับเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม โปรดทราบว่าโรงพยาบาลไม่สามารถรับผิดชอบใดๆ ต่อการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบุคคลที่สามดังกล่าว เนื่องจากอยู่นอกการควบคุมของโรงพยาบาล
การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัย

  • ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บรักษาไว้นานเท่าที่จำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ตามที่อธิบาย

ไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย หรือเพื่อการดำเนินการทางกฎหมาย

  • โรงพยาบาลจะใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย และการบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวม โดยโรงพยาบาลจะจำกัดการเข้าถึงข้อมูลของท่าน ไม่ว่าที่จัดเก็บในระบบอินเตอร์เน็ต หรือในรูปแบบเอกสารไว้เฉพาะบุคลากรที่มีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจัดเก็บในสถานที่ที่มีระบบการป้องกันการเข้าถึงโดยจำกัดบุคคลที่สามารถเข้าถึงได้สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบเอกสาร

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถร้องขอการเข้าถึงหรือขออัพเดทหรือขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ รวมถึงสิทธิอื่นใดตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ
โดยท่านอาจติดต่อโรงพยาบาลผ่านทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้ดำเนินการตามสิทธิของท่านดังนี้

  • สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent) : ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับโรงพยาบาลได้ ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับโรงพยาบาล
  • สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access) : ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้โรงพยาบาลทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้โรงพยาบาลเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อโรงพยาบาลได้
  • สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification) : ท่านมีสิทธิในการขอให้โรงพยาบาลแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
  • สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure) : ท่านมีสิทธิในการขอให้โรงพยาบาลทำการลบข้อมูลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
  • สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing) : ท่านมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
  • สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability) : ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับโรงพยาบาลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้
  • สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object) : ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
ช่องทางการติดต่อ
คำร้องในการเข้าถึงหรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น หรือการเรียกร้องสิทธิใดๆ อันเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมแนบสำเนาหลักฐานเพื่อแสดงตัวตน เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง รายละเอียดการทำนัดหมายแพทย์ และข้อมูลการติดต่อกลับ หรือหากท่านมีคำถาม ข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียนที่เกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ท่านสามารถติดต่อที่ โทร: 02-998-9999 หรือตามที่อยู่ต่อไปนี้
บริษัท ปทุมรักษ์ จำกัด
เลขที่ 733/345 , 733/359 หมู่ที่ 8 ถนนพหลโยธิน ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130
หมายเลขโทรศัพท์ 02-9989999
บริษัท ปทุมรักษ์เวชการ จำกัด
เลขที่ 733/347 หมู่ที่ 8 ถนนพหลโยธิน ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130
หมายเลขโทรศัพท์ 02-9989999
e-mail : pdpa@patrangsit.com
ทั้งนี้ ท่านไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆในการดำเนินการตามสิทธิข้างต้น โดยโรงพยาบาลจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาให้ท่านทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องดังกล่าวจากท่าน
การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัว
โรงพยาบาลจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ หากมีการเปลี่ยนแปลงโรงพยาบาลจะแจ้งให้ท่านทราบโดยเร็วบนเว็บไซต์ของโรงพยาบาลที่ www.patrangsit.com
นโยบายนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565
นายรณชิต แย้มสอาด
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล-คู่ค้า
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลด้านคู่ค้า
ของ
บริษัท ปทุมรักษ์ จำกัด และ บริษัท ปทุมรักษ์เวชการ จำกัด


นโยบายนี้ได้จัดทำขึ้นสำหรับ บริษัท ปทุมรักษ์ จำกัด ผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลแพทย์รังสิต และโรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2  และ บริษัท ปทุมรักษ์เวชการ จำกัด ผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิต (“โรงพยาบาล”) เนื่องจากโรงพยาบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในความเป็นส่วนตัวของบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และในฐานะที่โรงพยาบาลเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เมื่อท่านได้ ส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับโรงพยาบาลในทุกช่องทาง
นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ จะใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความครอบครอง หรือการควบคุมของโรงพยาบาลไม่ว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทำโดยโรงพยาบาล หรือบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นซึ่งกระทำในนาม หรือตามคำสั่งของโรงพยาบาล
เพื่อประโยชน์ของท่านก่อนส่งข้อมูลส่วนบุคคล หรือเริ่มใช้งานเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่นต่างๆ ของโรงพยาบาล ขอให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจนโยบายฉบับนี้โดยละเอียด เพื่อรับทราบถึงวิธีการที่โรงพยาบาลจะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ประมวลผล และการส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิต่างๆ ที่ท่านพึงมีตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ภาพรวมนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ประกอบด้วยหัวข้อดังต่อไปนี้ :

  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวม
  • การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
  • การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
  • การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัย
  • การใช้บังคับคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • ช่องทางการติดต่อ

ข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวม
โรงพยาบาลจะดำเนินเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ของโรงพยาบาล ทั้งในทางตรงและทางอ้อม ในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และข้อมูลในรูปแบบอื่นๆ ที่มิใช่ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
            ข้อมูลระบุตัวตน เช่น ชื่อ นามสกุล ภาพถ่าย เพศ วันเดือนปีเกิด หนังสือเดินทาง หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือหมายเลขอื่นใดที่สามารถระบุตัวตนอื่นๆ เป็นต้น

  • ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ ที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หรืออีเมลล์ เป็นต้น
  • ข้อมูลคู่ค้า เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ที่ตั้งสำนักงาน ชื่อกรรมการผู้มีอำนาจ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ อีเมล์ นามบัตร สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และอื่นๆ ตามที่เจ้าของข้อมูลส่งมอบให้
  • ข้อมูลที่ท่านให้กับโรงพยาบาล เช่น ข้อมูลในการกรอกแบบฟอร์ม หรือข้อมูลระหว่างเข้าร่วมกิจกรรมของโรงพยาบาล หรือจากการตอบคำถามระหว่างการสนทนา หรือในการทำแบบสำรวจ
  • ข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและการให้บริการของโรงพยาบาล เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ เพศ อาชีพ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยูอีเมล์ ความชอบส่วนตัว
  • ข้อมูลอื่นใดที่เจ้าของข้อมูลให้เพื่อที่จะเข้าร่วมในการแข่งขัน โปรโมชั่น งานแสดงสินค้า และกิจกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของโรงพยาบาล ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลที่กรอกใน “ติดต่อเรา” (“Contact Us”) หรือในช่องทางอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน เช่น ข้อมูลการลงทะเบียนเพื่อร่วมกิจกรรมกับโรงพยาบาล เช่น  ข้อมูลการลงทะเบียนเพื่อร่วมกิจกรรมกับโรงพยาบาล
  • ข้อมูลที่รวบรวมโดยระบบในคอมพิวเตอร์ (Cookies) และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน รวมถึงข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ (IP Address) ซึ่งข้อมูลประเภทนี้จะถูกรวบรวมในขณะที่ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เพศ อีเมล์ IP Address หรือ Facebook Twitter Google+ ในกรณีที่ท่านลงชื่อเข้าใช้ (Login) หรือแอพพลิเคชั่น (Application) หรือโซเชียลเน็ตเวิร์ก (Social Network) ต่างๆ ของบริษัท
  • การวิเคราะห์ข้อมูลและสำรวจพฤติกรรมของลูกค้า หรือบุคคลที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ได้แก่ ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ อีเมล์ นามบัตร สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และอื่นๆ ตามที่เจ้าของข้อมูลส่งมอบ
  • การจัดทำรายงานและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจของโรงพยาบาล เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์  ที่อยู่ อีเมล์ นามบัตร สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และอื่นๆ ตามที่เจ้าของข้อมูลส่งมอบให้

การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรง หรือทางอ้อมจากหลายแหล่งที่มาของข้อมูล ได้แก่

  • กรณีที่โรงพยาบาลเข้าทำสัญญากับท่าน โรงพยาบาลอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการเข้าทำสัญญากับโรงพยาบาลโดยตรง หรือแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งรวมถึง แหล่งข้อมูลที่เปิดเผยแบบสาธารณะ พันธมิตรทางธุรกิจของโรงพยาบาล บุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูล (ยกตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการรายอื่นที่ให้บริการเจ้าของข้อมูล)
  • แพลตฟอร์มออนไลน์ โรงพยาบาลอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านลงทะเบียนบัญชีในระบบอินเทอร์เน็ต (User Account) การทำแบบสำรวจ การประกวด หรือการกรอกข้อมูลเพื่อรับข้อเสนอโปรโมชั่น การกดติดตามเพื่อรับข้อมูลการส่งเสริมการขาย หรือเพื่อเชื่อมต่อกับโรงพยาบาล
  • การโต้ตอบสื่อสารออฟไลน์ โรงพยาบาลอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากทางออฟไลน์ เช่น เมื่อท่านเข้ามาในสำนักงานของโรงพยาบาล เมื่อมีการติดต่อกันผ่านทางโทรศัพท์ หรือเมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมของโรงพยาบาลหรือการให้นามบัตร

การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
โดยทั่วไปแล้วโรงพยาบาลจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามคำขอของคู่สัญญา/คู่ค้าที่ได้แสดงเจตนาเข้าทำสัญญากับโรงพยาบาล
  • การประสานงานและส่งต่อข้อมูลซึ่งจะช่วยให้การส่งต่อผู้ป่วยมีความรวดเร็วขึ้น
  • เพื่อจัดหาสินค้าหรือให้บริการแก่ท่าน
  • เพื่อปรับปรุงมาตรฐานในการสื่อสารและการบริการของโรงพยาบาล และเพื่ออำนวยความสะดวกท่านในการใช้สินค้าหรือบริการของโรงพยาบาล
  • เพื่อติดต่อท่านในกรณีที่ท่านได้เข้าร่วมแข่งขัน ประกวด ประมูล หรือทำแบบสำรวจกับโรงพยาบาล
  • เพื่อตอบหรือทำตามคำร้องขอหรือข้อร้องเรียนของท่าน
  • เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด
  • เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมออนไลน์หรือออฟไลน์ ซึ่งเกี่ยวข้องและน่าสนใจสำหรับท่าน ซึ่งรวมถึงการกำหนดทิศทางการทำการตลาดเพื่อประโยชน์ของท่าน
  • เพื่อวิเคราะห์การดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของโรงพยาบาล (การโต้ตอบสื่อสาร การขาย จำนวนการนัดหมาย หรือการโทรศัพท์ติดต่อ)
  • เพื่อเชิญท่านเข้าร่วมงานหรือกิจกรรมส่งเสริมการขายที่โรงพยาบาลเป็นผู้สนับสนุน
  • เพื่อส่งข้อเสนอ รายการส่งเสริมการขาย หรือข้อมูลอัพเดทเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของโรงพยาบาล
  • เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด ตามที่โรงพยาบาลแจ้งต่อท่านเป็นครั้งคราว เมื่อโรงพยาบาลขอความยินยอมท่านเพื่อจัดเก็บข้อมูล

            โรงพยาบาลอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้ข้างต้น เมื่อโรงพยาบาลได้รับความยินยอมจากท่าน หรือ ในกรณีที่การประมวลผลนั้นได้รับอนุญาตหรือเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรวมถึงเมื่อการประมวลผลนั้นเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
            (ก) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
            (ข) เพื่อป้องกันหรือระงับ อันตรายต่อชีวิตร่างกาย สุขภาพของบุคคล
            (ค) เพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตามกฎหมาย
            (ง) เพื่อผลประโยชน์อันชอบธรรมตามกฎหมาย โดยโรงพยาบาลจะพิจารณาถึงความจำเป็นในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (ตัวอย่างเช่น การขายธุรกิจหรือทรัพย์สินบางส่วนของโรงพยาบาล หรือการทำให้ได้มาซึ่งธุรกิจหรือทรัพย์สินทั้งหมดหรือบางส่วนของโรงพยาบาลโดยบุคคลอื่นใด เพื่อป้องกันการฉ้อโกงหรือการกระทำผิดทางอาชญากรรม หรือเพื่อป้องกันการใช้สินค้าหรือบริการของโรงพยาบาลในทางที่ผิด ตราบเท่าที่โรงพยาบาลสามารถรักษาความปลอดภัยของระบบไอที และระบบเครือข่ายได้อย่างเต็มความสามารถ)
            อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ผ่านกระบวนการทำให้เป็นข้อมูล                                นิรนาม (Anonymization) เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด โดยไม่ขอความยินยอมจากท่าน
            ทั้งนี้ โรงพยาบาลจะไม่เก็บข้อมูลส่วนบุคลจากเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ในกรณีที่โรงพยาบาลพบว่า เราได้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากเด็กต่ำกว่า 10 ปี โดยไม่เจตนา โรงพยาบาลดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลของเด็กออกจากระบบการเก็บข้อมูลโดยทันที อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี จากบิดามารดา หรือผู้ใช้อำนาจปกครองโดยตรง เมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากบุคคลดังกล่าวก่อนการเก็บข้อมูล
ในกรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ โรงพยาบาลอาจจัดเก็บข้อมูลจากผู้ปกครอง หรือผู้พิทักษ์แล้วแต่กรณี ทั้งนี้เมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากบุคคลดังกล่าวก่อนการเก็บข้อมูล
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยวิธีการอื่นใดต่อบุคคลภายนอก โดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่ มีกฎหมายกำหนดหรืออนุญาตให้เปิดเผย ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลนั้นๆ จะต้องเป็นไปเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น
ในการดำเนินการตามกิจกรรมทางธุรกิจของโรงพยาบาลและเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กล่าวข้างต้น โรงพยาบาลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้รับข้อมูล ซึ่งอาจจะตั้งอยู่ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ตามประเภทของผู้รับข้อมูล(ถ้ามี) ดังที่จะได้กล่าวต่อไปนี้ (ในแต่ละประเภท ให้รวมไปถึงตัวแทน พนักงานและกรรมการของโรงพยาบาล)

  • โรงพยาบาลอื่นๆ หรือ หน่วยงานต่างๆ ในกลุ่มโรงพยาบาล โรงพยาบาลในเครือ เมื่อมีการให้ข้อมูลส่วนบุคคลในโรงพยาบาลใดโรงพยาบาลหนึ่ง ให้ถือว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้นสามารถเข้าถึงได้ ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลจะต้องดำเนินไปในลักษณะที่สอดคล้องกับกฎระเบียบการโอนข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างกันขององค์กรและสอดคล้องกับแนวทางในการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล
  • ผู้จัดหาสินค้า หรือผู้ให้บริการของโรงพยาบาล (เช่น ผู้ให้บริการระบบสารสนเทศ ผู้ให้บริการCloud        ผู้ให้บริการฐานข้อมูล และที่ปรึกษาที่ให้บริการคำสั่งของโรงพยาบาล) ในกรณีที่การเปิดเผยข้อมูลแก่ผู้ให้บริการนั้นถือว่าจำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังที่ได้กล่าวไปในข้างต้น
  • ตัวแทน ผู้ให้บริการ ธุรกิจคู่ค้า และธุรกิจพันธมิตร หุ้นส่วนทางธุรกิจ บริษัทผู้รับจ้าง หรือ ผู้ให้บริการ หรือผู้รับจ้างที่ทำงานในนามของโรงพยาบาล ซึ่งได้จัดหาสินค้า หรือให้บริการกับโรงพยาบาล
  • หน่วยงานด้านการรายงานข้อมูลเครดิต ธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัท บัตรเครดิต หรือ       เดบิต เป็นต้น
  • สำนักงานทนายความ สำนักงานที่ปรึกษา เพื่อดำเนินการเร่งรัดหนี้สินตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาต หรือติดตามทวงหนี้ค้างชำระตามใบแจ้งหนี้
  • บุคคลที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมาย บุคคลที่มีแนวโน้มที่จะเข้าควบรวมกิจการ หรือซื้อกิจการ ทั้งหมดหรือบางส่วนของโรงพยาบาล
  • หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้

ในกรณีที่โรงพยาบาลเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลใดๆ นอกเหนือจากในกลุ่มโรงพยาบาลแพทย์รังสิต โรงพยาบาลจะทำข้อตกลงกับบุคคลภายนอก เพื่อกำหนดภาระหน้าที่ของแต่ละฝ่ายในการปกป้องข้อมูลจากการใช้ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือโดยไม่เจตนา เพื่อกำหนดความสามารถในการเข้าถึงข้อมูล การเปิดเผยข้อมูล ความเสียหาย สูญหาย หรือถูกทำลายของข้อมูล
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถร้องขอการเข้าถึงหรือขออัพเดทหรือขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ รวมถึงสิทธิอื่นใดตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ
โดยท่านอาจติดต่อโรงพยาบาลผ่านทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้ดำเนินการตามสิทธิของท่านดังนี้

  • สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent) : ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับโรงพยาบาลได้ ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับโรงพยาบาล
  • สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access) : ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้โรงพยาบาลทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้โรงพยาบาลเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อโรงพยาบาลได้
  • สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification) : ท่านมีสิทธิในการขอให้โรงพยาบาลแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
  • สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure) : ท่านมีสิทธิในการขอให้โรงพยาบาลทำการลบข้อมูลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
  • สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing) : ท่านมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
  • สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability) : ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับโรงพยาบาลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้
  • สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object) : ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

หากท่านต้องการใช้สิทธิของท่าน สอบถามข้อสักถาม หรือร้องเรียนเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ท่านขอใช้สิทธิตามวิธีการที่โรงพยาบาลกำหนด และ โรงพยาบาลอาจขอให้ท่านระบุตัวตนของท่านก่อนที่โรงพยาบาลจะให้บริการตามคำขอ โรงพยาบาลจะดำเนินการตอบกลับเป็นลายลักษณ์อักษรทางอีเมลทันทีที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ ภายใน 30 วันหลังจากที่โรงพยาบาลได้รับคำร้องขอ พร้อมข้อมูลประกอบที่ชัดเจนและเพียงพอจากท่าน
อย่างไรก็ตาม ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โรงพยาบาลมีสิทธิที่จะปฏิเสธคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน ในกรณีที่การใช้สิทธิดังกล่าวเข้าข้อยกเว้นที่กฎหมายกำหนด หรือ หากทำตามสิทธิของพนักงานอาจจะกระทบต่อสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น
ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูล เมื่อโรงพยาบาลปฏิเสธคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน และท่านเห็นว่าการปฏิเสธนั้นไม่มีเหตุผลสมควร หรือเมื่อโรงพยาบาลไม่ได้ตอบรับคำร้องขอท่านภายในระยะเวลา         ที่กำหนดไว้
การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัย
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บรวบรวมได้ตลอดระยะเวลาเท่าที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ในนโยบายความเป็นส่วนบุคคลนี้ หรือตามระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ในสัญญา หรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือภายในอายุความการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
โรงพยาบาลได้จัดเตรียมมาตราการทั้งทางกายภาพและทางเทคนิคเพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจากการประมวลผลโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ป้องกันการทำลาย การสูญหาย เสียหายหรือการเปลี่ยนแปลงแก้ไข โดยอุบัติเหตุหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ยังรวมถึงป้องกันการใช้ การเปิดเผย หรือการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น จำกัดกลุ่มบุคคลที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล จำกัดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถเข้าถึงได้ กำหนดมาตรการทางวินัยกรณีมีการใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ชอบ เป็นต้น
ในกรณีที่ธุรกรรมบางอย่างบนเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่น หรือโซเชียลเน็ตเวิร์กมีความจำเป็นที่จะต้องใช้รหัสผ่านในการลงชื่อเข้าใช้ (Log in)   ท่านมีหน้าที่เก็บรักษารหัสผ่านดังกล่าวไว้เป็นความลับ โดยโรงพยาบาลจะไม่รับผิดชอบในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านรั่วไหล หรือถูกละเมิดจากการที่ท่านมอบรหัสผ่านของท่านให้กับบุคคลอื่น
การใช้บังคับคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายนี้มีผลใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่โรงพยาบาลเป็นผู้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย และเจ้าของข้อมูลตกลงให้โรงพยาบาลมีสิทธิในการเก็บรวบรวม และนำข้อมูลของบุคคลของเจ้าของข้อมูลที่โรงพยาบาลได้เก็บรวบรวมไว้แล้ว (หากมี) ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวมในปัจจุบัน และที่จะได้เก็บรวบรวมในอนาคตไปใช้ เปิดเผยแก่บุคคลอื่นภายในขอบเขตตามที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้
การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ หากมีการเปลี่ยนแปลงโรงพยาบาลจะแจ้งให้ท่านทราบผ่านเว็บไซต์ของโรงพยาบาล ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา
ช่องทางการติดต่อ
หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ โปรดติดต่อที่อีเมล์pdpa@patrangsit.com หรือ โทรศัพท์          02-9989999

นโยบายนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565
นายรณชิต แย้มสอาด  
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสาหรับกล้องวงจรปิด
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับกล้องวงจรปิด
ของ
บริษัท ปทุมรักษ์ จำกัด และ บริษัท ปทุมรักษ์เวชการ จำกัด


            นโยบายนี้ได้จัดทำขึ้นสำหรับ บริษัท ปทุมรักษ์ จำกัด ผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลแพทย์รังสิต และโรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2 และ บริษัท ปทุมรักษ์เวชการ จำกัด ผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิต (“โรงพยาบาล”) เนื่องจากโรงพยาบาลได้ติดตั้งและใช้กล้องวงจรปิดสำหรับสังเกตการณ์และบันทึกภาพบุคคลที่อยู่ในบริเวณโดยรอบของอาคารและสถานที่ของโรงพยาบาล เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ได้อธิบายแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เก็บรวบรวมได้จากกล้องวงจรปิด รวมถึงสิทธิต่างๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) ดังที่จะกล่าวในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับกล้องวงจรปิดฉบับนี้            ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับกล้องวงจรปิด”
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ประกอบด้วยหัวข้อดังต่อไปนี้ :

  • วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
  • วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  • การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  • ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล
  • การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับกล้องวงจรปิด
  • วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล

เมื่อท่านอยู่ในและบริเวณโดยรอบของอาคารและสถานที่ของโรงพยาบาล ข้อมูลของท่านจะถูกบันทึกผ่านระบบรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาล เช่น ระบบกล้องวงจรปิด ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และ/หรือรูปแบบเอกสาร
            ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ
            –  ภาพถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหวที่ถูกบันทึกไว้
            –  อุณหภูมิร่างกายผ่านเครื่องตรวจจับอุณหภูมิ (Thermal scan)

  • วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของโรงพยาบาล จะดำเนินการผ่านเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล หรือบุคคลใดๆ ซึ่งมีความเกี่ยวข้อง หรือที่จะกระทำการแทนหรือในนามโรงพยาบาล ที่จำเป็นในการควบคุมและรักษาความปลอดภัยบริเวณอาคารและสถานที่ของโรงพยาบาล อาจอาศัย (1) ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate interest) และ (2) ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย (Legal obligation) ดังนี้
            1. เพื่อควบคุมการเข้าอาคารและสถานที่ ตลอดจนเพื่อสังเกตการณ์ ป้องกัน ขัดขวาง และตรวจสอบการเข้าอาคารและสถานที่โดยมิได้รับอนุญาต เพื่อรักษาความปลอดภัยบริเวณอาคารและสถานที่ของโรงพยาบาล
            2. เพื่อควบคุมการเข้าถึงแหล่งเทคโนโลยีสารสนเทศและฐานข้อมูลของโรงพยาบาล
            3. เพื่อจัดเก็บข้อมูลจากระบบกล้องวงจรปิดไว้ในฐานข้อมูลของโรงพยาบาล รวมทั้งเพื่อดูแลและตรวจสอบระบบกล้องวงจรปิดตามวัตถุประสงค์ข้างต้น
            4. เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการทางกฎหมายใด ๆ รวมถึงการดำเนินการที่จำเป็นในกระบวนการทางกฎหมาย หรือการปฏิบัติตามคำสั่งของศาลหรือหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย
            5. เพื่อการป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาด
            6. ในกรณีที่โรงพยาบาล มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือดำเนินการประมวลผลใดๆ ต่อข้อมูลส่วนตัวของท่านนอกเหนือไปที่วัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ โรงพยาบาลจะแจ้งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงไว้ที่เว็บไซต์ www.patrangsit.com หรือแจ้งเป็นประกาศของโรงพยาบาลให้ท่านทราบ

  • การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

            โดยนโยบายและแนวปฏิบัติโรงพยาบาล จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เก็บรวบรวมผ่านระบบกล้องวงจรปิดดังกล่าวให้แก่บุคคลภายนอก แต่อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ดำเนินการดังกล่าวเท่านั้น เช่น ศาล อัยการ เจ้าหน้าที่ตารวจ หรือเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นต้น

  • ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

โรงพยาบาล จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน นับแต่วันที่ท่านได้เข้าอาคารหรือสถานที่ของโรงพยาบาล หรือหลังจากครบกำหนดอายุความในการดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ภาพที่บันทึกไว้โดยกล้องวงจรปิดนั้นจะถูกลบโดยอัตโนมัติ

  • สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านสามารถร้องขอการเข้าถึงหรือขออัพเดทหรือขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ รวมถึงสิทธิอื่นใดตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ โดยท่านอาจติดต่อโรงพยาบาลผ่านทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้ดำเนินการตามสิทธิของท่านดังนี้

  • สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to withdraw consent) :ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับโรงพยาบาลได้ ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับโรงพยาบาล
  • สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right of access) :ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้โรงพยาบาลทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้โรงพยาบาลเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อโรงพยาบาลได้
  • สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to rectification) :ท่านมีสิทธิในการขอให้โรงพยาบาลแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
  • สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to erasure) :ท่านมีสิทธิในการขอให้โรงพยาบาลทำการลบข้อมูลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
  • สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to restriction of processing) :ท่านมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
  • สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to data portability) :ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับโรงพยาบาลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่นหรือตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้
  • สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to object) :ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

            ท่านสามารถใช้สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นได้ โดยติดต่อมาที่คณะกรรมการดำเนินงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของโรงพยาบาล ตามรายละเอียดท้ายนโยบายนี้ โรงพยาบาลจะแจ้งผลการดำเนินการภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่โรงพยาบาลได้รับคำขอใช้สิทธิจากท่านตามวิธีการที่โรงพยาบาลกำหนด ทั้งนี้ หากโรงพยาบาลปฏิเสธคำขอโรงพยาบาล จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ข้อความ (SMS) อีเมล์ โทรศัพท์ หรือจดหมาย เป็นต้น

  • มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

            ภาพถ่ายหรือภาพที่ถูกบันทึกข้างต้นไว้โดยโรงพยาบาล สามารถเข้าถึงได้โดยฝ่ายอาคารและซ่อมบำรุงของโรงพยาบาลที่ดำเนินการเกี่ยวกับระบบกล้องวงจรปิด ในการนี้โรงพยาบาลได้จำกัดการเข้าถึงระบบกล้องวงจรปิดในระดับสูงซึ่งจะมีการป้องกันโดยการกำหนดรหัสผ่าน (Password) และบันทึกการเข้าสู่ระบบและการปฏิบัติการใดๆ ของ         ผู้เข้าถึงระบบกล้องวงจรปิด และข้อมูลส่วนบุคคลมิอาจเข้าถึงได้โดยมิได้รับอนุญาตจากผู้จัดการฝ่ายอาคารและซ่อมบำรุงของโรงพยาบาล โรงพยาบาลจะจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดอย่างปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานในการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด หากท่านมีเหตุให้เชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกละเมิด หรือมีข้อสงสัยประการใดเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับกล้องวงจรปิดฉบับนี้กรุณาติดต่อคณะกรรมการดำเนินงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของโรงพยาบาลตามแนบท้ายนโยบายนี้
            การรักษาความมั่งคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
            โรงพยาบาลจะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามหลักการการรักษาความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสูญหาย         การเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผย นอกจากนี้โรงพยาบาล ได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (Administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (Technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (Access control)
            ด้วยการแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
            ในกรณีที่มีเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกิดขึ้น โรงพยาบาลจะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้าภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่สามารถกระทำได้ ในกรณีที่การละเมิดมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของท่าน โรงพยาบาลจะแจ้งการละเมิดให้ท่านทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาโดยไม่ชักช้าผ่านช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์ข้อความ (SMS) อีเมล์ โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น

  • การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว

            โรงพยาบาลจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ หากมีการเปลี่ยนแปลงโรงพยาบาลจะแจ้งให้ท่านทราบผ่านเว็บไซต์ของโรงพยาบาล           ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา
            ช่องทางการติดต่อ
            หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ โปรดติดต่อที่อีเมล์pdpa@patrangsit.com หรือ โทรศัพท์          02-9989999

นโยบายนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่  1 มิถุนายน 2565
นายรณชิต แย้มสอาด   
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
แบบฟอร์มคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านสามารถดาวน์โหลด "แบบคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล"  ได้ที่ Link : Download

จุดเริ่มต้นที่ยั่งยืน
2565
ได้รับรางวัล “สถานพยาบาลในดวงใจ”
2555
ปรับปรุงห้อง ICU และห้องผ่าตัดให้ทันสมัย

- ห้อง ICU สำหรับผู้ป่วยทั่วไป
- ห้อง ICU สำหรับผู้ป่วย VIP
- ห้องผ่าตัด จำนวน 4 ห้อง

2554
1 พ.ค. 2554 เปิดให้บริการ โรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิต
2548
เปิดศูนย์บริการใหม่

- ศูนย์ทันตกรรมครบวงจร

2540
11 ก.พ. 2540 เปิดอาคารผู้ป่วยหลังใหม่ สูง 7 ชั้น รองรับผู้ป่วยได้ 200 เตียง

- ศูนย์ทันตกรรมครบวงจร

2535
ต่อเติมขยายเป็น 5 ชั้น (จำนวน 100 เตียง)
2533
เปิด 2 ศูนย์บริการใหม่
- ศูนย์ไตเทียม
- ศูนย์เอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์
2531
ต่อเติมพืนที่เป็น3ชั้น เพื่อรองรับการใช้งานที่มากขึ้น
2529
ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลรังสิต
- คุณธำรง แย้มสอาด
- คุณประไพ แย้มสอาด
2556
11 มิ.ย. 2556 เปิดบริการศูนย์
- ศูนย์หัวใจครบวงจร ได้การรับรองมาตราฐาน ระบบคุณภาพห้องปฎิบัติการ
2531
ต่อเติมพืนที่เป็น3ชั้น เพื่อรองรับการใช้งานที่มากขึ้น
2529
ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลรังสิต
- คุณธำรง แย้มสอาด
- คุณประไพ แย้มสอาด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน

ตั้งค่าคุกกี้